หากเราจะวิเคราะห์คลื่นไมโครเวฟ ซึ่งเป็นคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ยังอยู่ในย่านความถี่การรับส่งวิทยุ ยังต่ำกว่าย่านความถี่ที่ใช้สื่อสารระหว่างดาวเทียมเสียอีก หากเป็นความถี่ในย่านนี้ ในชีวิตประจำวันเราได้สัมผัสกับคลื่นทุกวันอยู่แล้ว จาการรับส่งวิทยุ การใช้โทรศัพท์มือถือ เพียงแต่กำลังงานที่ได้รับอาจจะต่ำ เมื่อเทียบกับอาหารที่อยู่ภายในเตาไมโครเวฟได้รับ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักการที่ทำให้อาหารร้อนขึ้นของเตาไมโครเวฟแล้ว ย่านความถี่วิทยุนี้ไม่น่าจะทำให้มีรังสี หรือสารตกค้างจากคลื่นไมโครเวฟ เนื่องจากความถี่ไมโครเวฟต่ำกว่าความถี่ของแสงที่ตาเรามองเห็น และรับสัมผัสจากดวงอาทิตย์ทุกวัน ซึ่งคลื่นที่มีผลเสียต่อร่างกายของเราคือตั้งแต่ย่านความถี่อัลตร้าไวโอเลตขึ้นไป เช่นรังสีเอ็กซ์ รังสีแกมม่า รังสีเบต้า ฯลฯ

   แม้ว่าจะพิจารณาจากหลักการของเตาไมโครเวฟว่าจะปลอดภัย แต่การสัมผัสกับกำลังงานมาก ๆ ของคลื่นไมโครเวฟย่อมจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย นักวิทยาศาสตร์จึงกำหนดเงื่อนไขของเตาไมโครเวฟขณะใช้งาน ว่า จะต้องมีคลื่นรั่วไหลออกรอบๆ เตาไมโครเวฟได้ ไม่เกิน 5 มิลลิวัตต์ ต่อ ตารางเซนติเมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจากการใช้งานเตาไมโครเวฟ เราจึงไม่ควรอยู่ใกล้ๆ เตา หรือจ้องมองใกล้ ๆ ขณะที่สั่งงานเตาไมโครเวฟให้ทำงาน เราควรถอยห่างจากเตาไม่น้อยกว่า 1 เมตร จะช่วยป้องกันการสัมผัสกับคลื่นไมโครเวฟได้