เตาไมโครเวฟ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่ทำให้อาหาร หรือวัตถุที่มีส่วนประกอบของน้ำที่อยู่ภายในตู้ ร้อนขึ้นด้วยการใช้คลื่นวิทยุย่านความถี่ไมโครเวฟ ซึ่งเตาไมโครเวฟโดยทั่วไปที่ใช้อยู่ภายในบ้าน จะใช้ความถี่ 2,450 MHz
หลักการง่ายๆ ของเตาไมโครเวฟในการทำให้อาหารร้อนขึ้น คือ การปล่อยคลื่นไมโครเวฟออกไปสู่อาหาร หรือน้ำ คลื่นไมโครเวฟนี้จะซึมเข้าสู่ส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของอาหารที่ยังคงทำให้สารอาหารรวมตัวกันอยู่ได้ เราเรียกส่วนนี้ว่า "โมเลกุล" ซึ่งภายในโมเลกุลยังประกอบไปด้วยอนุภาคไฟฟ้าย่อยๆ อีก 3 ส่วน คือ โปรตอน (อนุภาคประจุบวก) อิเล็กตรอน (อนุภาคประจุลบ) และนิวตรอน (อนุภาคที่เป็นกลาง)
เมื่อโมเลกุลของอาหารได้รับคลื่นไมโครเวฟ จะเกิดการวิ่งสลับไปมาของอนุภาคประจุไฟฟ้าบวก และลบ ตามการสลับขั้วของคลื่นไมโครเวฟ (ประมาณ 5,000 ครั้งต่อวินาที) ทำให้เกิดการเบียดเสียดกันของอนุภาค ทำให้เกิดเป็นความร้อนขึ้นภายในโมเลกุล คิดให้ง่ายเข้าไปอีกปรากฏการณ์การร้อนขึ้นของอาหารในเตาไมโครเวฟ เปรียบคล้ายการเอาเส้นลวดโลหะ มางอไปมาอย่างเร็วหลายครั้ง จะพบว่า ส่วนที่งอไปมาจะร้อนขึ้น
ด้วยวิธีการทำให้อาหารร้อนขึ้นจากภายในโมเลกุลนี้เอง หากเราใส่อาหารเข้าไปในเตาไมโครเวฟ และสั่งงานให้เตาทำงานมากเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณอาหาร จนทำให้ผิวของอาหารไหม้ หากเป็นการให้ความร้อนด้วยวิธีการ ปิ้ง หรือย่าง เมื่อผิวอาหารไหม้ เราจะยังคงรับประทานได้ เพียงแต่ขูด หรือลอกส่วนที่ไหม้ออก ก็จะเหลือส่วนที่ยังไม่ไหม้ แต่อาหารที่ไหม้ด้วยการใช้เตาไมโครเวฟ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น หากพบว่าอาหารภายในเตามีผิวที่ไหม้เกรียม นั่นหมายถึงว่าภายในจะยิ่งกว่าไหม้เข้าไปอีก ต้องทิ้ง นำไปรับประทานไม่ได้
|